เปรตติวิสัยและอสุรกาย

เปรตติวิสัยและอสุรกาย

                    ภูมิแห่งเปรตวิสัย คือ  แดนแห่งเปรต  โดยพิสดาร มี ๑๒ จำพวก

         (๑)     วันตรสาเปรต  เปรตกินสิ่งที่มนุษย์ถ่มทิ้ง  คายทิ้ง

         –  เหตุ ถ่มน้ำลาย  ฯลฯ  ในบริเวณเจดีย์

         (๒)     กุณปขาทกเปรต  เปรตกินซากศพเป็นอาหาร

           เหตุ นำเนื้อที่ต้องห้ามไปถวายพระสงฆ์

         (๓)     คูถขาทกเปรต เปรตกินคูถเป็นอาหาร

           เหตุ ด่าพระสงฆ์ให้กินคูถ – ถ่ายอุจจาระ ฯลฯ ในเจดีย์

         (๔)     อัคคิมุขเปรต   เปรตปากไฟ

           เหตุ ประสงค์หัวเราะจึงเอาของร้อน  เผ็ด  ถวายพระ

         (๕)     สูจิมุขเปรต  เปรตปากเล็กเท่ารูเข็ม

           เหตุ ตระหนี่  ไม่ให้ทาน  ใจแคบ  ห้ามผู้อื่นไม่ให้ทาน

         (๖)     ตัณหาชิตาเปรต   เปรตกระหายน้ำ

           เหตุ ใจแคบหวงบ่อน้ำ สระน้ำ ปิดไม่ให้พระสงฆ์ หรือมหาชนใช้

         (๗)     นิชฌามกเปรต เปรตตัวดำเป็นเหมือนตอไม้ถูกไฟเผา

         –  เหตุ เห็นพระ  โยมแก่  ไม่ปลง  หลอกหลอน  ฯลฯ

         (๘)     สัตถังคเปรต   เปรตมีเล็บเป็นศาตรา

         –  เหตุ โกรธหยิกพระ, บิดา, มารดา, สามี, ภรรยา  ฯลฯ

         (๙)     ปัพพตังคเปรต เปรตมีตัวใหญ่เหมือนภูเขา

         –  เหตุ ใจบาปเผาสมณะบริขาร   บ้านเรือน  ฯลฯ

         (๑๐)   อชครังคเปรต  เปรตมีรูปเหมือนงูเหลือม

         –  เหตุ หลอกผู้อื่นด้วยรูปช้าง  ม้า  งู  ฯลฯ  ให้กลัว

         (๑๑)   เวมานิกเปรต  เปรตมีวิมานอยู่

         –  เหตุ ทำดีบ้าง  ทำชั่วบ้าง

         (๑๒)  มหิทธิเปรต   เปรตมีฤทธิ์มาก

          –  เหตุ  บวชเป็นสมณะแต่โลภมาก หวงกุฏิ วิหาร  ฯลฯ

         บางคัมภีร์ เช่นมิลินทปัญหาได้สรุปเปรตวิสัยไว้ว่า  ถึงจะมีมากประเภท     แต่โดยสังเขปมี  ๔  ประเภทเท่านั้น  คือ

         (๑) อุตุปชีวีเปรต  เปรตกินประจำเดือน  น้ำเลือด  น้ำหนองของมนุษย์แลสัตว์เป็นอาหาร

         (๒) ขุปปิปาสิกเปรต   เปรตที่อดข้าว อดน้ำอยู่เป็นนิจ  มิได้กินข้าว  กินน้ำ  หิวอยู่ตลอดอายุ

         (๓) นิชฌามตัณหิกเปรต       เปรตมีไฟเผาไหม้อยู่ในตัว  เหมือนไฟไหม้โพรงไม้ฉะนั้น

         (๔) ปรทัตตูปชีวิเปรต  เปรตอาศัยเลี้ยงชีวิตด้วยอาหารที่ญาติ  หรือคนอื่นทำบุญอุทิศไปให้

อสุรกายภูมิ

        ได้แก่  พวกเปรตประเภทพิเศษ และเทวดาชั้นต่ำ โดยย่อมีอยู่
๒  ประเภท คือ

         (๑)  กาลัญชิกาสุรกาย  หมายถึง  อสุรกายที่เป็นเปรตพิเศษ  มีอยู่ 
๒ จำพวก   คือ         

         –  จำพวกหนึ่ง  มีรูปร่างใหญ่โต  สูง  ๒,๐๐๐  วา  ซูบผอม      ตาอยู่บนกระหม่อม

         –  จำพวกหนึ่ง  มีรูปร่างพิกลพิการ  ฯลฯ

         (๒) ทิพยอสุรกาย      หมายถึง  อสุรกายที่เป็นเทพชั้นต่ำ  หรือเรียกว่า     วินิปาติกะ  ผู้เข้าถึงวินิบาต  คือ  โลกเป็นที่อยู่ของสัตว์ผู้ตกต่ำ  ผู้อยู่ในภูมิชั้นต่ำ

        เหตุที่นำสัตว์ไปเกิดเป็นเปรต-อสุรกาย  โดยมากได้แก่ โลภะและตัณหา  มาในอัฏฐกถา  อัฏฐสาลินี  รับรองว่า

“เยภุยฺเยน  หิ  สตฺตา  ตณฺหาย  เปตฺติวิสยํ  อุปฺปชฺชนฺติ”

         จริงอยู่  โดยส่วนมากสัตว์ทั้งหลายตายไปแล้วไปเป็นเปรต  และอสุรกายก็เพราะโลภะตัณหา