พระคุณของครู
พระ..ประเสริฐเลิศล้ำ………โลกา
คุณ..ยิ่งใหญ่เหลือคณา…..นั่นแท้
ของ..สิ่งใดไหนหา…………มาเลย ปานเปรียบ
ครู..ผู้หนักธรรมแน่น….…..มั่นด้วย ความดี ฯ
ดีประจำ
การทำดี ถูกดี ย่อมมีค่า
ถูกเวลา ถูกบุคคล ผลสนอง
หมั่นทำดี เป็นประจำ ไม่ลำพอง
ดีทั้งผอง สนองผล ดลให้ดี ฯ
บทบาทของอาจารย์
อาจารย์ หมายถึง ผู้สอนประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ทั่วไป
ศิษย์ หมายถึง ผู้รับความเมตตาจากอาจารย์ผู้สอน เพื่อบำเพ็ญตนให้เกิดประโยชน์สืบต่อไป
อาจารย์มีคุณสมบัติ ๗ ประการ
๑. ทำตัวน่าเลื่อมใส
๒. น่าเคารพรักและนับถือ
๓. ความคิดก้าวหน้าเสมอ
๔. ฉลาด เข้าใจพูด
๕. อดทนต่อถ้อยคำของศิษย์
๖. อธิบายเรื่องยากให้ง่าย
๗. เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ชักนำศิษย์ไปในทางที่เสื่อม
บทบาทและหน้าที่ของศิษย์
ศิษย์ควรจะเป็นผู้ตั้งใจเพื่อ น้อมรับ เชื่อฟัง ใคร่ครวญ พิจารณา อดทน ขยัน ไว้ใจ ซื่อตรง ตอบแทนพระคุณ รักษาชื่อเสียงสถาบัน สำนึกและปฏิบัติตาม ฯ
ครูให้คติธรรม
เห็นเกียจคร้าน ปานมิตร ผิดสอนสั่ง
การเรียนห่าง ไม่อินัง กับหนังสือ
แต่จะกลับ โง่ทึ่ม ซึมกระทือ
อาภัพชื่อ ทุกข์ทน ไปจนตายฯ
พระคุณของครู
สักวันหนึ่ง คงจะรู้ ว่าครูรัก
สักวันหนึ่ง คงประจักษ์ เป็นสักขี
สักวันหนึ่ง คงจะรู้ ว่าครูดี
สักวันหนึ่ง คงได้ดี เพราะเชื่อครู
ศิษย์ดี – ครูเด่น
ศิษย์จะดี เพราะมีครู ช่วยชูเชิด
ศิษย์ประเสริฐ เพราะน้อมรับ คำสอนได้
ครูกับศิษย์ ให้หลักคิด สั่งสอนใจ
เป็นหลักชัย ในชีวิต ศิษย์กับครูฯ
ปณิธานของครูอาจารย์
ใจที่เมตตา ของครูบาอาจารย์ แรงกาย แรงความคิด สติปัญญา ของผู้ที่ได้ชื่อว่า “ครูอาจารย์” นั้น ย่อมเสียสละ ทุ่มเททั้งหมด ให้ศิษย์ฯ
เพื่อลูกศิษย์ของตัวเอง ให้มี… ความรู้ ความคิด ความฉลาด ความสามารถ ความองอาจ ความสำเร็จ ความสุข และสมหวังฯ
ในความคิดของอาจารย์
เธอจะเป็น ลูกใคร ไม่สำคัญ
ที่เป็นนั้น ลูกศิษย์ฉัน สำคัญกว่า
จะอบรม บ่มสติ เสริมปัญญา
ให้เจ้ากล้า เติบโต จนได้ดี ฯ
ในความคิดของศิษย์
ขออุทิศ ชีวิต ทั้งหมดนี้
ทำความดี ตลอดไป ไม่แปรผัน
จะเร่งสร้าง ทั้งคืน และทั้งวัน
ชีวิตนั้น สร้างธรรมไว้ ใช้แทนคุณ ฯ
ทาน ศีล ภาวนา
อันศีลทาน ภาวนา อย่าได้ละ
อุตสาหะ สืบสร้าง ทางสวรรค์
นิสัยส่ง คงนิพพาน ไม่นานวัน
เกษมสันต์ แสนสุข พ้นทุกข์เอยฯ
เตรียมสร้างทางไว้ชอบ…หวังกุศล
ตัวสุขส่งเสริมผล…เพิ่มให้
ก่อนแต่มฤตยูดล…เด็ดชีพ เชียวนา
ตายพรากจากโลกได้…สถิตด้าว แดนเกษม ฯ
พ่อของลูก
ยามเย็นค่ำเคยพูดจ้อกันพ่อลูก
เคยปรับทุกข์ลูกพ่อขอขนม
พ่อของลูกปลูกฝังหวังชื่นชม
เป็นพระพรหมของลูกทุกเวลา
เมื่อลูกสุขพ่อของลูกพลอยสุขด้วย
คราลูกป่วยช่วยลูกทุกข์หนักหนา
ลูกได้ดีพ่อนี้เปรมปรีดา
ขอวันทาพ่อของลูกทุกวันเอย ฯ
พ่อแม่คือพระในบ้าน
รักใดเล่ารักแท้เท่าแม่รัก
ผูกสมัครรักมั่นมิหวั่นไหว
หวงแสนหวงเท่าห่วงดั่งดวงใจ
ที่แม่ให้กับลูกอยู่ทุกครา
ยามลูกขื่นแม่ขมตรมเท่าหลาย
ยามลูกเศร้าแม่โศกวิโยคกว่า
ยามลูกหายแม่ห่วงหวงดังดวงตา
ยามลูกมาแม่หมดลดห่วงใย ฯ
บวชเรียน
มาบวชเรียนอุทิศใจถวายพระ
มาเคล้าคละเพื่อนน้องพี่ที่ฝึกสอน
มาอยู่ร่วมมิตรภาพทุกถิ่นตอน
มาเว้าวอนละสิ่งชั่วประกอบดี
สิ่งต้องมีในจิตใจคือธรรมะ
สิ่งต้องละคือกิเลสอันเสียดสี
สิ่งต้องหมั่นคือประกอบคุณความดี
สิ่งต้องมีคือคำสอนพุทธองค์ ฯ
ยอดนักสู้
เมื่อชีวิตผิดหวังอย่านั่งท้อ
จงรีบต่อสู้เถิดจะเกิดผล
ผิดเป็นครูรู้แก้ให้แก่ตน
เกิดเป็นคนต้องต่อสู้จึงอยู่ดี
ก้าวต่อไปก้าวต่อไปอย่าได้หยุด
แม้สะดุดล้มลงไปอย่าใจฝ่อ
เป็นนักสู้ต้องสู้สิอย่ารีรอ
อย่าย่อท้อหนทางยาวที่ก้าวไป
โน้นจุดหมายปลายทางอยู่ข้างหน้า
จะเหินฟ้าข้ามเขาเอาให้ได้
มิหวั่นพลาดมิหวั่นแพ้มิหวั่นภัย
มิหวั่นใจมิหวั่นจิตสักนิดเดียว ฯ
กรรมลิขิต
คนเราเกิดมาที่แตกต่าง
เป็นเพราะกรรมสรรสร้างอย่าสับสน
ไม่ใช่ใครที่ไหนคอยบันดล
แต่เป็นกรรมของทุกคนดลบันดาล
แต่มีคนส่วนใหญ่เข้าใจผิด
ว่าพระพรหมลิขิตชีวิตฉัน
จึงรอคอยพระพรหมดลบันดาล
ให้ชีวิตเรานั้นจงโชคดี
แล้วชีวิตไม่คิดแสวงหา
มัวแต่คอยวาสนามาถึงที่
แล้วชีวิตก็ตกต่ำลงทุกที
ไม่เข้าใจว่ากรรมนี้คอยสร้างตน ฯ
เสียงปลุกเบิกอรุณ
สุริโยทัยไขแสงบอกแจ้งแล้ว
เสียงวิหคร้องเจื้อยแจ้วแสวงหา
ซึ่งอาหารทะยานไปในนภา
หมู่ปักษายังขยันหมั่นหากิน
ท่านที่รักจักซบนอนอยู่ไยเล่า
ตื่นแต่เช้าเพื่อเกลาจิตเป็นนิจสิน
แสวงธรรมพระสัมมาเป็นอาจิณ
ชำระล้างซึ่งมลทินออกจากใจ
อายุไขในมนุษย์นี้น้อยนัก
หากช้าชักจักเกินกาลสุดแก้ไข
เพราะบางคนอาจตายก่อนถึงวัย
มรณภัยนี้ไม่รอให้ต่อรอง
เป็นมนุษย์สุดแสนดีมีโอกาส
มีปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าสัตว์ทั้งผอง
ขอวิงวอนทุกๆท่านจงไตร่ตรอง
ยึดพระธรรมมาประคองในดวงใจ
เป็นอุปนิสัยเป็นปัจจัยในภพหน้า
เป็นปัญญาบารมีชี้แจ่มใส
เพื่อไม่หลงเพลิดเพลินเมื่อเดินไป
เชิญท่านไซร้ตื่นขึ้นรับสดับธรรม ฯ
ปริศนาธรรมโบราณ
ยังมีเคหาห้อง เฮือนหลวงหลังหนึ่ง
มุงด้วยหญ้าแฝกล้วน เสานั้นหากบ่หลาย
มีอยู่สองเสาแท้ บานประตูหกป่อง
ฝาผนังแอ้มแป้น มีหญ้าเกิดแกม
เฮือนหลวงหลังนี้ มีไผเป็นช่าง
มีหยังเป็นยอดช่อฟ้า นามนั้นว่าจังได๋
มีหยังเป็นเซ็นฝากั้น ตะปู ปอ หวายผูก
เฮ็ดจังได๋จังสิเพออกได้ เฮือนนี้บอกมาแนท้อน ฯ
ผญา
กุญชรช้าง ….. อัสดรคุณมาก
ก็หากหายากแท้ ….. ทั้งค้ายบ่มี
ส่วนว่ายุงยอฮิ้น ….. ฝูงไฮเฮือดไต่
บ่ห่อนไฮ้ ….. หาได้ซู่เฮือนฯ
ครันแม่นมีความฮู้ ….. พาตนเฮ็ดบ่แม่น
ความฮู้ท่อแผ่นฟ้า ….. เป็นบ้าท่อแผ่นดิน
คือดั่งลิงเห็นแก้ว ….. มณีนิลใส่ส่อง
บาดได้มาแท้แท้ ….. คนเล่นดั่งเม็ดดินฯ
ความตายนี้ ….. แขวนคอซู่บาดย่าง
แม่นสิหนีเข้าถ้ำ ….. ก็นำก้นหยอกหยอย
ความตายนี้ ….. แขวนคอซู่บาดย่าง
ไผกะแขวนอ้อนต้อน ….. เสมอด้ามดังกันฯ
ความยากหยุ่ง ….. ควายหลายโตดึงจ่อง
โตหนึ่ง ….. ข้องง่าคอง
โตสอง ….. ข้องง่าขาม
โตสาม ….. ข้องง่ามี้
โตสี่ ….. ข้างง่าหว้า
โตห้า ….. ข้องง่าบก
โตหก ….. ข้องง่าแต้
ไผสิมาช่วยแก้ ….. ควายข่อยจังสิไปฯ
คำปากพ่อแม่นี้ หนักเกิ่งธรณี
ไผ๋ผู่ยำแยงนบ หากสิเฮืองเมื่อหน้าฯ
คึดถึงคนตายนี้ บ่อมีทางสิเห็นโห่
คือดั่งไฟมอดแล้ว ไผสิฮู้ปล่องไปฯ
จวงจันทร์คู้ ของหอมหายาก
เชื้อเปลือกไม้ หาได้ซูยามฯ
จอมปลวกอ้น ขุดก่นเป็นโพน
แม่นสิเป็นโพนสูง ชั่วไกลเห็นแจ้ง
คันบ่อมีสาขาไม้ ใบเขียวปกห่อ
ก็บ่ดูอาดแท้ โพนนั้นเปล่าแปนฯ
ใจบ่โสดาด้วย เว้าแม่นกะเป็นผิด
ใจบ่โสดาดอม เว้าดีกะเป็นฮ้าย
ใจประสงค์สร้าง กลางดงกะว่าทุ่ง
ใจขี้คร้าน กลางบ้านกะว่าดงฯ
ชื่อว่ากรรมเถิงแล้ว จำใจตายจาก
บ่มีไผแก่ทื้น คืนได้โลกเฮาฯ
ชื่อว่าจันทร์เพ็งแจ้ง บ่ปานแสงสุริเยศ
แสงกะบองหมื่นเหล้ม บ่ปานแจ้งแห่งเดือน
คือดั่งแนวเหลนหล้อน บ่ปูนปานเฒ่าย่า
เด็กน้อยฮู้ตั้งล้าน บ่ปานเถ้าผู้เดียวฯ
ชื่อว่าแนวความเว้า ของคนมันเกินง่าย
ได้ทั้งหงายและคว่ำ คำเว้าบ่อยู่ความ
เขาฮักเขากะย้อง เขาซังเขากะว่า
คือดังบักเค่าเม่า หมาเฒ่าเห่าแต่เขา
ครันเฮาเฮ็ดแม่นแล้ว สิหยันหญ่อกะช่างเขา
เขาสิพากันท้วง ทังเมืองกะบ่เหงี่ยง
เขาสิติทั้งฮ้าย ขายหน้ากะบ่อายฯ
ชื่อโลกีย์กว้าง เมืองคนมันบ่เที่ยง
มันหากเหงี่ยงซ้อยม้อย คือค้อยตะฝั่งของ
ลางเทื่อศิษย์กลับได้ เป็นครูสอนสั่ง ก็มีดาย
ลางเทื่อลูกออกก้น สอนส้อพ่อแม่คีง
ลางเทื่อแนวเด็กน้อย สอนคนหัวด่อน
ลางเทื่อเชื้อไพร่บ้าน สอนท้าวบ่าวพญา ก็มีเด้ฯ
เชื้อชาติจ้อง คันจ่องกะยังหุบ
บาดฮ่าซาตาหลุบ หลูบลงคือจ้อง
ยามเมื่อชาตาขึ้น ขวางคือขอนกะยังล่อง
บาดสิล้ม หยุมหญ้ากะบ่ฟังฯ
ติว่าเป็นไก่ดื้อ เต้นตอดตำขา
มันหากเห็นแนวกิน จั่งแล่นวนนำก้น
ติแต่ควายบักเลฮ้าย ปักตูสวนผั้นบ่หี่
ติแต่แมงหมี่ฮ้าย ตีนสิ้นบ่ฮ่ำเพียงฯ
ติแต่เด็กน้อยดื้อ โตเองบ่เหลียวเบิ่ง
กินแต่เหล้าอยู่จ้นจ้น เด็กน้อยกะเฮ็ดนำฯ
ทนทำสร้าง อดออมไปก่อน เถาะนา
ทุกข์มื่อนี้ เมื่อหน้าสิซุ่มเย็น ดอกนาฯ
ทำทานให้ ….. สังโฆองค์เลิศ
อย่าได้คึดคี่ค้อย ….. ของน้อยสิเน่านูน
ทำทานบ่มีศีลพร้อม ….. ผลบุญบ่เฮืองฮุ่ง
มีศีลคันบ่คึดละเว้น ….. สิเป็นได้จั่งใด๋
ทำทานบ่ปรารถนาตั้ง ….. สิเอาหยังเป็นที่เพิ่ง
มีแต่ปรารถนาบุญบ่ได้สร้างไว้ ….. สิเป็นได้ฮ่อมใด
ทำทานผัวเมียบ่พร้อม ….. ผลบุญบ่เติมส่วน
บุญครันบ่เพียรก่อสร้าง ….. สิหลายได้จั่งใด
ทำทานบ่มีใจตั้ง ….. สิหวังปองเป็นประโยชน์ ใดเด
หวังประโยชน์แต่บ่ทานทอดให้ ….. บุญสิได้ฮ่อมใดฯ
ทุกข์ยากฮ้าย ข่อนขอดแลงงาย ก็ดายถ้อน
อย่าได้ลืมความสัตย์ เที่ยงจริงคำหมั้นฯ
บัวอาศัยพึ่งน้ำ ปลาเพิ่งวังตม
ไพร่กับนาย ก็เพิ่งกันโดยด้าม
อันว่าเสือสางช้าง กวางฟานอาศัยป่า
ป่าก็อาศัยสัตว์สิ่งฮ้าย จิ่งหนาแน่นมืดมุง
เฮาอาศัยพึ่งบ้าน บ้านก็เพิ่งบุญเฮา
ครันเฮาหนีไกลบ้าน เฮือนชานสิเป็นป่า
บ้านสิเป็นเหล่าเฮื้อ เครือสิเกี้ยวมืดมุง
เฮาอาศัยพวกพ้อง น้องนุ่งสหายเกลอ
เขาก็อาศัยเฮา จิ่งเป็นเมืองบ้าน
คนหากอาศัยด้วย ดอมคนเป็นหมู่
บ่มีไผอยู่ยั้ง ทอนท้อผู้เดียว ได้แหล้วฯ
บุญบ่เคยได้สร้อย สังวาลย์คำพญานาค
ขี้ดินดากติดหัวแต่ละน้อย หลงเอิ้นว่าหอนฯ
บุญมีได้ เป็นนายใช้เพิ่น
ครันว่าบุญบ่ให้ เขาสิใช้ตั้งแต่เฮา
บุญมีได้ เป็นนายให้เขาเพิ่ง
ครันแม่นบุญบ่พร้อม แสนสิดิ้นก็เปล่าดาย
ครันสิคอยแต่บุญมาค้ำ บ่ทำการก็บ่แม่น
คอยแต่บุญส่งให้ มันสิได้ฮ่อมใด
คือดั่งเฮามีเข้า บ่เอากินมันบ่อิ่ม
มีลาบครันบ่เอาเข้าคุ้ย ทางท้องบ่ห่อนเต็ม ได้แหล้วฯ
โลกนี้บ่เที่ยงหมั่น เหมือนดังนิรพาน
ยามเมื่อเทียวสงสาร บ่เที่ยงคงคือน้ำ
ลางเทื่อพลอยบกแห้ง ลางเทื่อเต็มเสียเปล่า
ลางเทื่อเขินขาดท้าง เลิงเรื่อยอยู่ดังเดียว นั้นแหล้วฯ
สงสารซ้ง วนเวียนผลัดเปลี่ยน
มันหากเวียนล้องค้อง คือล้อรถยนต์
บ่ห่อนหนีไปพ้น เกิดแก่เจ็บตาย
มีแต่วนเวียนติด ต่อกันบ่มีแล้วฯ
สัจจะเจ้า คือกวยกะต่าห่าง
ทิ่มใส่น้ำ ไหลเข้าสู่ตา
สัจจะข้อย คือหินก้อนใหญ่
ทิ่มใส่น้ำ สิไหลเข้าก็บ่มี ฯ
อย่าได้ติโทษท้วง ปวงหมู่หมูหมา
มันบ่เห็นแนวกิน บ่แลนวนเวียนล้อม
ติแต่แมงวันฮ้าย ตอมโตอยู่โพ้ไพ่
โตหากเหม็นอู้อู้ สิติได้ฮ่อมใด๋ฯ
อันว่าความตายนี้ เสมอกันโดยดั่ง
ข้อยและเจ้า เสมอด้ามดั่งกันฯ
อันว่าโลกีย์นี้ บ่มีแนวตั้งเที่ยง
มีแต่ตายแตกม้าง ทลายล้มเกลื่อนหายฯ
อันว่าความตายม้าง ไกลกันเจียระจาก
ครั้นบ่ม้มโอฆะกว้าง สิเที่ยวพ้ออยู่เลิงฯ
อัศจรรย์ใจกุ้ง กุมกินปลาบึกใหญ่ฯ
ปลาซิวไล่สวบแข้ หนีไปซ้นหลืบหิน
ทำดีแล้ว ไผสิเตียนก็ตามช่าง
เฮ็ดแม่นแล้ว สิหยันหย่อก็ช่างตาม
เขาสิติเตียนท้วง ทั้งเมืองก็อย่าเหงี่ยง
เขาสิติทั้งค่าย ขายหน้าก็อย่าหงวย
เฮามาพากันสร้าง ธงชัยให้ดูอาจ
ติแต่คันหากสั้น แขวนได้สิบ่ปลิว ท่านเอยฯ
แก้วก็มีต่างแก้ว จันทคาดคุณลึก
นอก็มีต่างนอ ด่างดำแดงสิ้ว
ไม้ก็มีต่างไม้ ฮ้อยลำแสนกก
คนก็มีต่างคน มากมูลเหลือล้น
ดีชั่วสับสนแส่ว หลายอันอนันต์เนก
หากบ่คิดถี่ถ้วน สิหลงโอ้เมื่อลุน ท่านเอย ฯ
โลกนี้มันบ่ตั้งเที่ยงหมั่น….. เหมือนดังนิรพาน
อันแต่ในสงสาร…..บ่เที่ยงคงเสมอได้
อย่าได้กุมกำแน่น ….. มัวเมาเกล้ากะหม่อมหลายเด้อ
เกิดแก่ดับทั่วสิ้น ….. คำนี้ให้หิ่นตรอง บ้างแหม ฯ
คันสิเทียวทางเวิ้งให้หาฮ่มบังหัว
คันสิไปทางไกลไถ่ถงให้มีพร้อม
คันสิไปทางหน้าให้หาทิงบั้งใหญ่
ใส่บั้งไว้เต็มบั้งจั่งค่อยไป
ทิงว่าไว้บั้งใหญ่คือโตเฮา
วัฏฏะสงสารอันใหญ่ยาวคาวเยิ้น
กองบุญสร้างกุศลแฮคึดฮ่ำ
ทางหน้าพุ้นผัดยังกว้างกว่าหลัง
ศีลนั้นเป็นฮ่มกั้งคันยูใหญ่บังหัว
ทานนั้นเป็นเสบียงไถ่ถงให้มีพร้อม
ถึงสิไกลยาวเยิ้นภาวนาตักน้ำใส่
ไกลปานได๋กะบ่อย่าน ทิงบั้งได้ตื่มเต็ม พ่อแม่เอย…ฯ
เกิดเป็นคนนี้แสนดีแสนประเสริฐ
เอาสวรรค์กะได้ เอานิพพานกะได้ ให้ไวฟ้าวฟั่งทำ
คันหากมัวชักช้าความตายสิมาผ่า
ฝูงหาก้อมสิมาซ้ำกระหน่ำลง
มันสิเสียชาติชั้นเฮาเกิดเป็นคน
มันสิเสียมรรคผลอันเฮาควรสิได้
ให้ฮีบไวไวฟ้าวทำความเพียรอย่าประมาท
ธรรมพระพุทธเจ้าให้เอาเข้าใส่มโน แนท้อน
เกิดเป็นคนนี้แสนดีแสนประเสริฐ
เอาสวรรค์กะได้ เอานิพพานกะได้ ให้ไวฟ้าวอย่าอยู่เฉย
คันเกิดเป็นชาติเชื้อเสือสาง งัวควาย หมูหมา เป็ดไก่ป่า
กินแต่ดินแต่หญ้าบ่อมีฮู้ฮ่องธรรม
หลูโตนเด้เขาแกงเขาลาบ คาบขี้เพี้ยเลียซี้นต่อนสัน
เป็นตาย่านให้คิดเบิ่งให้มันเถิง
ให้มันเถิงให้มันถองอย่าสูลืมคำนี้
อย่าได้มัวอวดโอ้ว่าโตยังเป็นหนุ่ม
กะหม่อมยังบ่ทันป่งหุ้ม ผัดตายจ้อยกะผั่นมี…ท่านเอย ฯ
ทุกข์ยากฮ้ายเขินขาดแลงงาย
บ่อฮ่อนลืมศีลธรรมพร่ำเพียรฮักษาไว้
บ่อฮ่อนไลลาถิ่มคลองธรรมฮีตเก่า
ของพระพุทธเจ้าเฮาได้สั่งสอน
แม่นสิท่วมหรือแล้งขาดแหว่งบ่อสมบูรณ์
ประเพณีทำบุญพ่อแม่เฮาบ่อเคยถิ่ม
เอาความดีเป็นหลิ่มสลักใจไว้คงที่
สามัคคียึดไว้อย่าไลถิ่มฮีตคลอง
ให้สามัคคีกันไว้คือข้าวเหนียวนึ่งใหม่
อย่าให้เพแตกม้างคือน้ำถืกข้าวเหนียว ฯ