คำอธิษฐานเข้าพรรษา
อิมัส๎มิง อาวาเส อิมัง เตมาสัง วัสสัง อุเปมิ ฯ (ว่า ๓ จบ)
คำขอสัตตาหะกรณียะ
สัตตาหะกะระณียะกิจจัง เม อัตถิ, ตัส๎มา มะยา คันตัพพัง อิมัส๎มิง สัตตาหัพภันตะเร นิวัตติสสามิ ฯ
คำปวารณาออกพรรษา
สังฆัมภันเต ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิ ฯ
ทุติยัมปิ ภันเต สังฆัง ปะวาเรมิ ฯเปฯ ปะฏิกกะริสสามิ ฯ
ตะติยัมปิ ภันเต สังฆัง ปะวาเรมิ ฯเปฯ ปะฏิกกะริสสามิ ฯ
อานิสงส์การอยู่จำพรรษา
ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาตลอดไตรมาสจนได้ปวารณาแล้ว ย่อมได้อานิสงส์แห่งการจำพรรษา นับแต่วันปาฏิบท (คือแรม ๑ ค่ำ) ไปเดือนหนึ่ง คือ
๑. เที่ยวไปโดยไม่ต้องบอกลา ตามสิกขาบทที่ ๖ แห่งอเจลกวรรค ในปาจิตตียกัณฑ์
๒. เที่ยวจาริกไปไม่ต้องถือเอาไตรจีวรไปครบสำรับ (๓ ผืน)
๓. ฉันคณโภชน์และปรัมปรโภชน์ได้
๔. เก็บอดิเรกจีวรได้ตามปรารถนา
๕. จีวรอันเกิดขึ้นในที่นั้นๆ เป็นของได้แก่พวกเธอทั้งหลาย
ทั้งได้โอกาสเพื่อจะกรานกฐิน และได้รับอานิสงส์ ๕ ประการข้างต้นขยายเวลาออกไปอีก ๔ เดือน ตลอดฤดูเหมันต์ (จนถึงกลางเดือน ๔)